top of page

6 ลำดับธรรม
 

เห็นทุกข์         ................................... อุปาทานนั้นคือทุกข์ อุปาทานคือการคิด คิดยึดสิ่งเศร้าหมอง ยึดความพัวพัน

                       ... เห็นพิษสงของผลพวงอุปาทาน

 

เห็นมิจฉาทิฏฐิ ................................... ทิฏฐิุ62 ยึดความมีความไม่มี ความเที่ยงความไม่เที่ยง ยึดการบรรลุวิเศษ

                       ... เห็นมานะความหัวแข็งดื้อรั้นภายในตน

 

จตุุตถฌาน     ...................................  สติบริสุทธิ์ สมองหยุดทำงานเหลือแต่ส่วนการหายใจและหัวใจเต้น

                       ... ให้ถึง สติบริสทธิ์

                                    ( สมอง และ หัวใจ สัมปยุต สงบ  ... ความรู้สึกภายนอกภายในโดยตัดออกข้ามความสนใจไป)

 

ไตรลักษณ์ ทำให้แจ้ง 1,2 แจ้ง  ... สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นย่อมแปรปรวนไปเป็นปกติธรรมดา

                       ... สิ่งใด ย่อมไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงย่อมแปรปรวนอยู่เสมอ

 

ชำระล้างจิต    .................................... ล้างนิวรณ์5 ด้วยการหยุดคิด

                       ... สลายกลไกการก่อเกิดการพะวง (นิวรณ์5)

                       ... อยู่จบพรหมจรรย์ จนเกิด สัมปยุตต์ จนเกิด สัมมาญาน+สัมมาวิมุตติ

 

สุดปลายทาง  ............................ ความไม่มีอะไรนั้นได้สุดแค่นี้ - ไม่สนองต่อผัสสะใดๆอีก

 

 

สัตตัฏฐานสูตร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้เพ่งสนใจพินิจโดยวิธี ๓ ประการเป็นอย่างไร?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเพ่งสนใจพินิจ

  • โดยความเป็นธาตุ ประการหนึ่ง

  • โดยความเป็นอายตนะ ประการหนึ่ง

  • โดยความเป็นปฏิจจสมุปบาท ประการหนึ่ง 

สมาธิอันสัมปยุตด้วยอานาปานสติ อันภิกษุเหล่านั้นเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน และ เพื่อสติสัมปชัญญะ

 

สุขปัจจุบัน คือ โล่งกาย โล่งใจ เพราะด้วย สมองและหัวใจคลายตัว เรียกอาการนี้ว่า สัมปยุตต์ จากตำแหน่งก้านสมอง ที่ควบคุมลมหายใจและการเต้นของหัวใจคลายตัว

 

และหากว่า สมองส่วนที่เหลือ ไม่ทำงาน เหมือน แก้วที่น้ำรินออกแล้ว จะเป็นอาการของสติบริสุทธิ์

  • Facebook Clean Grey
  • Twitter Clean Grey

อันโลกุตตระธรรม ที่เบ่งบานเปรียบเหมือน สมองอันสงบแล้ว หัวใจนิ่งเย็น ท่ามกลาง สายฝนแห่งธรรม

 

ทุกอย่างเงียบสงัดลงแล้ว รอบนอกสงบลงแล้ว กายถูกสลัดทิ้ง-แยกออกจากการเหนี่ยวรั้งแล้ว

ดูกรอานนท์ แต่สาวกควรจะใกล้ชิดติดตามศาสดา เพื่อฟังเรื่องราวเห็นปานฉะนี้

 

ซึ่งเป็นเรื่องขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เป็นที่สบายแก่การพิจารณาทางใจ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับกิเลส เพื่อสงบกิเลส เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน

 

คือ เรื่องมักน้อย เรื่องยินดีของของตน เรื่องความสงัด เรื่องไม่คลุกคลี เรื่องพูดถึง ความเพียร เรื่องศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา เรื่องวิมุตติ เรื่องวิมุตติญาณทัสสนะ ฯ

 

ดูกรอานนท์ สาวกของศาสดานั้นแล เมื่อเพิ่มพูนวิเวกตามศาสดานั้น ย่อมพอใจเสนาสนะ อันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟาง เมื่อสาวกนั้นหลีกออกแล้วอย่างนั้นอยู่ พวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท จะพากันเข้าไปหา เมื่อพวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากันเข้าไปหาแล้ว สาวกนั้นจะปรารถนาอย่างหมกมุ่น จะถึงความวุ่นวาย จะเวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก

 

ดูกรอานนท์ ตถาคตอุบัติในโลกนี้ ได้เป็นผู้ไกลจากกิเลส รู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึก อย่างหาคนอื่นยิ่งกว่ามิได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้แจกธรรม ตถาคตนั้นย่อมพอใจเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟาง เมื่อตถาคตนั้นหลีก ออกแล้วอย่างนั้นอยู่ พวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท จะพา กันเข้าไปหา เมื่อพวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากัน เข้าไปหาแล้ว ตถาคตนั้นย่อมไม่ปรารถนาอย่างหมกมุ่น ไม่ถึงความวุ่นวาย ไม่ เวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก

bottom of page